ไขมันในอาหารมีทั้งไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว อาหารที่ทำจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมมีไขมันอิ่มตัวสูงกว่า ในขณะที่น้ำมันพืชส่วนใหญ่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่า เมื่อเทียบกับคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ไขมันแต่ละกรัมให้พลังงานมากกว่าสองเท่า (9 กิโลแคลอรีต่อกรัม) อย่างไรก็ตาม ไขมันในอาหารมีบทบาทสำคัญในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไขมันช่วยรักษาผิวหนังและเส้นขน หุ้มอวัยวะสำคัญ เป็นฉนวน และจำเป็นสำหรับการผลิตและการดูดซึมวิตามินและฮอร์โมนบางชนิด หลักเกณฑ์ด้านโภชนาการระบุว่าชาวแคนาดาควรมีไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงาน (แคลอรี่) และไม่เกิน 10% ของพลังงานที่เป็นไขมันอิ่มตัว วิตามินซีจำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างของหลอดเลือด กระดูก และเส้นเอ็น หลักโภชนาการ แหล่งที่อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว สตรอเบอร์รี่ และพริก โฟเลตที่พบในอาหารช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิด สตรีมีครรภ์หรือสตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเสริมกรดโฟลิก ซึ่งเป็นรูปแบบสังเคราะห์ของโฟเลต นอกเหนือไปจากอาหารของพวกเขา วิตามินดีช่วยรักษาสภาวะสมดุลของแคลเซียม พบได้ในแหล่งอาหารหรือสังเคราะห์ด้วยแสงแดด วิตามินช่วยควบคุมปฏิกิริยาเคมีในร่างกาย มีวิตามิน 13 ชนิด รวมทั้งวิตามิน A, B Complex, C, D, E และ K เนื่องจากวิตามินส่วนใหญ่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ จึงต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร หลายคนบอกว่าพวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นหลังจากกินวิตามิน แต่วิตามินไม่ใช่แหล่งพลังงาน (แคลอรี) วิตามินควรบริโภคผ่านอาหารที่หลากหลาย แทนที่จะเป็นอาหารเสริม เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะได้รับในปริมาณที่สูงเกินไป